ทัวร์ลงเพจโชว์กินชื่อดัง หลังเปิบเมนูค้างคาว ชาวเน็ตถาม ถ้าเป็นโรคระบาดทำอย่างไร
กำลังเป็นกระแสดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อเฟซบุ๊ก กินแซบแบบนัวนัว เจ้าของเพจเป็น ครูจุ๋ย ซึ่งเป็นเพจกินโชว์เมนูต่างๆที่มีแพลตฟอร์มทั้งเฟซบุ๊ก TikTok และ Bilibili ซึ่งในเฟซบุ๊กนั้นมีผู้ติดตามกกว่า 392,337 คน ได้ออกมาทำคลิปวิดีโอกินค้างคาวโชว์ ที่ทำให้คนจำนวนไม่น้อยวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย
โดยก่อนจะโพสต์คลิปดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว คุณได้กล่าวว่า คลิปวันนี้ รอคอยหายาหมองยาดมไว้เลย ปิดหูเปิดตาไว้ดีๆเด้อจ้า
ก่อนจะกินโชว์ในแต่ละส่วน โดยกล่าวว่า เกิดมาพึ่งจะเคยกินทีแรก เท้าจะมีเล็บ และเป็นมันๆมีกลิ่นเฉพาะตัว ลักษณะคล้ายแมงเม่า ตัวอ่อนๆคล้ายกับกินหนู หักคอจิ้มน้ำพริกกินได้ หลังเหนียว แต่ไม่ได้เหนียวมาก ย้ำว่า รสชาติมันๆไม่เลวร้าย
และว่า ไม่ได้เป็นคนนำโรค เนื่องจากคนแถวนี้ก็กินกัน
ช่วงตอนหนึ่งยังกล่าวว่า ขออนุญาตเนอะ อย่าเลียนแบบ แต่ลอกไม่ได้หรอก เนื่องจากหายาก ขออภัยที่ทำให้ตกใจ อะไรไม่เคยกินก็ได้กิน
“บอกไว้ก่อนว่าห้ามเลียนแบบ อันนี้ดูเพื่อความบันเทิง อะไรที่ดูแล้วเหนือกว่าที่เรากินได้ ก็อย่าไปลอกเลียนแบบ เราเป็นนักรีวิวอาหาร ลุยบ้าง ซอฟต์ๆ บ้างลุยบ้าง มีทุกอย่างเพื่อหลากหลาย ไม่มีเจตนาอะไรใครทั้งสิ้น ให้ดูเพื่อความบันเทิง” เจ้าของช่องกล่าว
และเมื่อผ่านไปไม่นาน คุณยังได้มาคอมเมนต์ในเฟซบุ๊กโพสต์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วว่า “บอกแล้ววันนี้มีเสียววว ยังมีชีวิตอยู่จ้า ขรี้ออก3เทื่อละจ้ายังบ่ตายย555 ถ่ายไว้ 2 วันแล้ว”
โดยมีคนเข้าไปคอมเมนต์ปริมาณมากว่าไม่เหมาะสม คงจะทำคอนเทนต์ที่ดีมากยิ่งกว่านี้ เพราะว่าบางครั้งก็อาจจะเป็นพาหะนำโรคได้ อาทิ
“เวลาติดเชื้อขึ้นมา กลายเป็นโรคระบาด ใครเดือดร้อนคะ ไม่ใช่แค่ตัวเองนะ ที่จีนต้นเหตุก็มาจากเมนูแบบนี้แหละ หรือจะเป็นโรคระบาดอื่นๆ ก่อนหน้า ก็เพราะค้างคาวนี่เป็นสาเหตุหลักนี่แหละ คิดให้เยอะๆ ค่ะ อย่าเอาแต่สนุก หรือแซ่บไปวันๆ
ค้างคาว เป็นสัตว์ที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่พิเศษ ทำให้มันเป็นพาหะของไวรัสสารพัดชนิด ที่รุนแรงถึงชีวิต และมักไม่มีทางรักษา เช่น ไวรัสพิษสุนัขบ้า ไวรัสนิปาห์ กระทั่งอีโบลา เชื้อพวกนี้ทำอะไรค้างคาวไม่ได้ แต่มันเป็นพาหะนำโรคไปสู่สัตว์อื่นได้ ห้ามกินค้างคาวเด็ดขาด แม้เอาไปทำสุกแล้วก็ไม่ได้”
“ถ้าขิตก็ขิตไปคนเดียว แต่อย่าเป็นโรคระบาดเถอะจะเดือดร้อนคนอื่น ของมีให้กินเยอะแยะ
น่าสะอิดสะเอียดจริงๆ”
“ควรมีความฉลาดในการทำคอนเทนต์มากกว่านี้นะครับ”
“ข่อยเบิ่งแล้วข่อยหมดคำสิเว้า สรรหาของแซ่บๆ มากินดีบ่เทอ อันนี้มันบ่สมควรเอามาเฮดกินโชว์ ทัวร์สิเข้าเด้อ เป็นห่วงติดตามมาตลอด ผิดหวังอยู่เทอ”
“ครู คิดถึงตอนโควิดมาใหม่ๆ”
“กระทรวงศึกษาโรงเรียนต้นสังกัดสั่งสอบคุณครูท่านนี้ด้วยครับ มันสมควรไหมแบบนี้”
อีกเพจดังออกตัวเปิดเผยเหตุผล ที่คนไม่สมควรกิน “ค้างคาว” เป็นอาหาร แนะไม่เข้าไปยุ่งจะดีที่สุด
เหตุผล ที่มนุษย์ไม่สมควรเอาค้างคาวมาเป็นอาหาร ชี้บางชนิดในไทยจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พาหะแหล่งโรคร้ายสารพัดสารพัน แถมยังเป็นเหตุให้เกิดโรคทางระบบประสาท หรือโรคสมองเสื่อมได้
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นักข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์ เมื่อมีการทำคอนเทนต์กินซุปค้างคาว จนเปลี่ยนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ดังที่เสนอไปก่อนหน้านี้ (จวกยับ สาวทำคอนเทนต์ กินซุป “ค้างคาว” หมอแล็บเตือน กระจายเชื้อได้ แม้ปรุงสุกแล้ว)
ล่าสุด แฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์เนื้อความ เกี่ยวกับกรณีดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ระบุว่า
ต้นเหตุที่มนุษย์ไม่สมควรเอาค้างคาวมาเป็นอาหาร นอกเหนือจากค้างคาวจะเป็นพาหะของโรครุนแรงสารพัดสารพัน ตั้งแต่ อีโบลา นิปาห์ พิษสุนัขบ้าแล้ว ค้างคาวหลายอย่าง ยังจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในบ้านพวกเราด้วย และค้างคาวยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศ ที่ช่วยสำหรับเพื่อการผสมเกสรดอกไม้ ถ่ายละอองเรณู ขี้ค้างคาวยังเป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับพืชพรรณ และช่วยกำจัดแมลงศัตรูพืชด้วย
อีกทั้งยังมีการศึกษาค้นคว้าพบว่า การกินเนื้อค้างคาว มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคทางระบบประสาท Lytico-bodig disease หรือโรค amyotrophic lateral sclerosis-parkinsonism-dementia (ALS-PDC)
บอกง่ายๆเป็นเป็นภาวะที่สมองเกิดการเสื่อม คล้ายภาวะอัลไซเมอร์ อาการเป็น มีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหว มือเท้าสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง สูญเสียความทรงจำ ในรายที่เป็นหนักๆถึงขนาดช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ บอกติดต่อสื่อสารไม่ได้ กล้ามเนื้อฝ่อ อ่อนล้า จนเป็นผู้เจ็บป่วยติดเตียง
โรคนี้เจอในเกาะกวม ที่มีการบริโภคค้างคาว สูงกว่าที่อื่นๆในโลก เกือบร้อยเท่า และมีการศึกษาจนเจอต้นเหตุแล้วว่า เกี่ยวข้องกับการบริโภคค้างคาว ที่กินผลไม้ประเภทหนึ่งในท้องถิ่นเป็นอาหาร พอคนกินค้างคาว ที่ร่างกายมีสารที่เกิดจากการกินผลไม้ตัวนั้นเข้าไปสะสมในร่างกาย ก็ทำให้เกิดโรคดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว ค้างคาวเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มนุษย์เราไม่สมควรเข้าไปข้องเกี่ยวด้วยประการทั้งปวง ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด.
“ปัญหาของโรคที่มาจากสัตว์ป่าจะพบในแอฟริกาเยอะ เพราะเป็นประเทศที่ไม่ได้เลี้ยงไก่ หมูเหมือนบ้านเรา เขาก็จะล่าสัตว์ป่ามากิน แต่บ้านเรามีสัตว์เลี้ยง มีแหล่งอาหารเต็มไปหมด จึงไม่ควรไปยุ่งกับสัตว์ป่า”
ข้อมูลจาก แฟนเพจเฟซบุ๊ก Drama-addict